ตั้งเป็นหน้าแรกของคุณ | ADD TO FAVORITES

วันแรกของการเปิดสมัคร อบจ.เชียงใหม่มีผู้สมัครจากหลายกลุ่มเดินทางมาสมัคร ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจอย่างคึกคัก

  เมื่อ: วันจันทร์, พฤศจิกายน 2nd, 2020, หมวด AEC HIGHLIGHTS, การเมือง, ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นวันนี้, สังคม

วันนี้ (2 พ.ย. 63) ที่ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อาคารหอประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้สมัครจากหลายกลุ่มยื่นสมัครพร้อมบรรดาผู้ที่มาให้กำลังใจอย่างคึกคัก โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดรับสมัครอำนวยความสะดวกนายมงคล สุกใส ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในครึ่งวันแรกของการเปิดรับสมัคร มีผู้สมัคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ แล้วจำนวน 2 คน ประกอบด้วยนายบุญเลิศ บูรณุปกร์ จากกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม และนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้ง 2 คนได้นำทีม ผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หรือ ส.อบจ. มาสมัคร ครบ 42 เขตเลือกตั้งแล้ว ด้านกลุ่มประชารัฐ มี ส.อบจ. มาสมัคร แล้ว 18 เขตเลือกตั้ง ส่วนนายบดินทร์ กินาวงศ์ ที่จะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่จะเดินทางมาสมัครในภายหลัง และอีกหนึ่งกลุ่มที่เป็นผู้สมัครอิสระ ส.อบจ. ก็จะได้เดินทางทยอยมาสมัคร

ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้อมูลการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจังหวัดเชียงใหม่ แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 42 เขตใน 25 อำเภอ มีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 3,087 หน่วย ซึ่งต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน โดย คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ จะมีหนังสือแจ้งเจ้าบ้านระบุผู้มีสิทธิเลือกตั้งและหน่วยเลือกตั้งให้ทราบต่อไป

สำหรับขั้นตอนการรับสมัคร ได้มีการแบ่งโซนการรับสมัคร แต่ละเขตแยกตามโต๊ะต่าง ๆ โดยจะเริ่มจากการรับสมัครผู้ลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ก่อน หากมีผู้สมัครที่เดินทางมายื่นสมัครพร้อมกัน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะใช้วิธีประชุมเพื่อตกลงลำดับการยื่นใบสมัคร หากไม่สามารถตกลงกันได้ ให้ดำเนินการจับสลากต่อหน้าผู้สมัคร เมื่อได้ลำดับแล้วก็จะให้ผู้สมัครจับสลากให้ได้หมายเลขที่จะยื่นใบสมัคร โดยหมายเลขนี้จะเป็นหมายเลขลำดับในการยื่นใบสมัคร แต่ยังไม่ใช่หมายเลขประจำตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอน ซึ่งจะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พฤศจิกายน นี้

ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เน้นย้ำ ให้ผู้สมัครได้ตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองให้ครบถ้วน โดยเฉพาะตามมาตรา 120 ที่ระบุว่าผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท และที่สำคัญศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นเป็นเวลาถึง 20 ปี.

ที่มา ศราวุธ เจิมจันทร์/นันธิกา กิจปาโลส.ปชส.เชียงใหม่

ภาพ ศักดิ์สิทธิ์ มีทรัพย์กว้าง

ติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่website : www.phaknuadaily.com.

แท็ก คำค้นหา