เชียงใหม่ นำร่องพร้อมกัน 8 จังหวัด จัดทำโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ”
จังหวัดเชียงใหม่ นำร่องพร้อมกัน 8 จังหวัด จัดทำโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และประชาชนที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ได้มีที่อยู่เป็นของตนเอง

ว่าที่ ร.ต.ยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ จัดทำ “โครงการบ้านคนไทยประชารัฐ” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย และประชาชนที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐได้มีที่อยู่เป็นของตนเอง โดยกำหนดรูปแบบที่อยู่อาศัยเป็นบ้านแฝด/บ้านแถว/อาคารชุดพักอาศัย มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร ในระดับราคา 350,000-700,000 บาท รวมทั้งกำหนดให้มีพื้นที่ส่วนกลางไม่เกินร้อยละ 30 ของพื้นที่โครงการฯ เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นและเป็นประโยชน์ต่อโครงการฯ ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์นั้นต้องทำสัญญาเช่ากับผู้พัฒนาโครงการ มีอัตราค่าเช่าผ่อนชำระขั้นต่ำประมาณ 4,500/บาทต่อเดือน เมื่อผู้ได้รับสิทธิอยู่อาศัยผ่อนชำระค่าเช่าที่อยู่อาศัยตามเงื่อนไขของผู้ได้รับสิทธิพัฒนาโครงการ และจะได้รับโอนกรรมสิทธิ์อาคารสิ่งปลูกสร้างตามสัญญา และได้เป็นผู้เช่าตรงกับกรมธนารักษ์หรือตามที่ธนาคารกำหนด ผลลัพธ์ที่ได้เป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง เพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรงเนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจอื่น ๆ (Value Chain) ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจจากที่ดินราชพัสดุที่ยังไม่มีการใช้ประโยชน์ และเพิ่มมูลค่าที่ดินราชพัสดุอีกด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2560 – 2564) ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตร์ 2 การสร้างความเป็นธรรมและการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยกำหนดเป้าหมายการลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของกลุ่มคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจสังคมที่แตกต่างกันและแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งมีแนวทางการพัฒนา โดยการเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มเป้าหมาย ประชากรร้อยละ 40 ที่รายได้ต่ำสุดให้สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพของรัฐ และมีอาชีพ โดยมีมาตรการสร้างโอกาสในการมีที่ดินของตนเองและยกระดับรายได้ กระทรวงการคลังจึงได้เสนอโครงการบ้านคนไทยประชารัฐเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยนำที่ราชพัสดุมารองรับการดำเนินโครงการดังกล่าว
สำหรับ จังหวัดเชียงใหม่ เป็น 1 ใน 8 จังหวัดที่จะต้องดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย ขอนแก่น ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ นครพนม ประจวบคีรีขันธ์ ลำปางและอุดรธานี โดยที่จังหวัดเชียงใหม่จะดำเนินการในที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ชม.1745 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เนื้อที่ 15 ไร่ 96 ตารางวา แต่พื้นที่จะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยจริงประมาณ 10 ไร่ หรือประมาณ 2,757 หน่วย โดยอีก 5 ไร่จะเป็นทางเข้า-ออก ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังศูนย์เกษตรภาคเหนือ ซึ่งได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็น ออกแบบและร่างTOR ไปแล้วและคาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้จะแล้วเสร็จและประกาศหาผู้เข้าร่วมพัฒนาโครงการต่อไป