สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุ
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2561 เวลา 15.40 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
โอกาสนี้ทรงวางพวงมาลัยถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วทรงเป็นประธานประชุมสามัญประจำปี 2561 พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีระเบียบวาระต่างๆ อาทิ รายงานผลการดำเนินการของมูลนิธิขาเทียมฯ ในปีงบประมาณ 2560 รายงานโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ซึ่งปี 2560 มูลนิธิได้บริการทำขาเทียมให้กับคนพิการขาขาด ที่สำนักงานมูลนิธิจังหวัดเชียงใหม่ และออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 2,589 ขา
สำหรับมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียนส่วนพระองค์เมื่อปี 2535 โดยจัดทำขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาดทุกเชื้อชาติ ศาสนา โดยไม่คิดมูลค่า
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการนวัตกรรมมูลนิธิขาเทียม ที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และภาคเอกชน พัฒนาการทำขาเทียมให้มีคุณภาพระดับสากล อาทิ การผลิตน่องเทียมสำเร็จรูปจากเบ้าอ่อนเพื่อใช้แทนโฟมแข็ง และประหยัดเวลาในการผลิต มีน้ำหนักเบา ราคาประหยัด ทดลองกับคนพิการไปแล้วประมาณ 350 คน ซึ่งสามารถใช้งานได้ดี
โครงการพัฒนาและวิจัยข้อเข่าแบบหลายจุดหมุนสำหรับขาเทียมระดับข้อเข่าที่มีตอขายาว มีความมั่นคงในการติดตั้งข้อเข่าแบบบานพับ มีความปลอดภัย ทนทาน การพัฒนาและผลิตข้อเข่าแบบหลายจุดหมุน ซึ่งประกอบง่าย ใช้วัสดุในประเทศ การผลิตข้อเข่าเทียมชนิดหลายจุดหมุน 4 แกน สำหรับผู้ใหญ่และเด็ก เพื่อให้เด็กได้ใช้ข้อที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับของจริง ทำให้การพัฒนาของเด็กใกล้เคียงปกติ
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานประกอบอาชีพ สาขาช่างเครื่องช่วยคนพิการ ทำให้ชาวบ้านมีตำแหน่งเป็นช่างเครื่องช่วยคนพิการ ในโรงงานขาเทียม 82 แห่งทั่วประเทศ และเพิ่มพูนทักษะช่างเครื่องช่วยคนพิการให้มีมาตรฐานตั้งแต่ปี 2555
ในการนี้ ได้พระราชทานขาเทียมแก่คนพิการขาขาด จำนวน 3 คน คนแรกเป็นเด็กชาย อายุ 7 ปี เป็นโรคพิการแต่กำเนิดขาขาด 2 ข้าง ระดับข้อเข่าขวา และระดับใต้เข่าซ้าย คนที่สองเป็นเด็กชาย อายุ 5 ปี ขาขาดระดับใต้เข่า 2 ข้าง เนื่องจากโรคพิการตั้งแต่กำเนิดเช่นกัน ส่วนคนที่สาม เป็นชายอายุ 47 ปี ขาขาดระดับใต้เข่าซ้าย จากการเหยียบกับระเบิด โดยเป็นตัวแทนรับพระราชทานขาเทียมให้แก่ผู้ถูกกับระเบิดจำนวน 14 คน ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ส่งไปรับบริการขาเทียมที่มูลนิธิขาเทียมฯ