อำนาจ…พูด

ติดตามคณะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

เยือนนครเซี่ยงไฮ้และเมืองหางโจวจีน (5)

วันที่ที่สามในนครเซี่ยงไฮ้ เป็นวันที่ 23 พค.60 วันนี้ต้องเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแชงกรี ลา เพื่อจะเดินทางไปเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางรถไฟความเร็วสูงในตอนเย็น แต่ช่วงเช้าถึงบ่ายยังมีภารกิจอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ เริ่มด้วยเวลา 09.00 น. ชมพิพิธภัณฑ์ผังเมืองนครเซี่ยงไฮ้ คำว่าพิพิธภัณฑ์ ความเข้าใจตอนแรกคิดว่าคงนำของเก่าๆในนครเซี่ยงไฮ้มาจัดแสดง ที่ไหนได้ เป็นการแสดงภาพโมเดลผังเมืองนครเชียงไฮ้ในปัจจุบัน คือจำลองเมืองมาไว้ที่นี่ จะเห็นทุกตะรางนิ้วของนครเซี่ยงไฮ้มีตึกสูงหมื่น มีอะไรจำลองให้เห็นหมด โดยพื้นที่ผังเมืองจำลองอยู่ชั้นหนึ่ง  เมื่อขึ้นไปชมชั้นสองจัดระเบียงทางเดินให้ชม เมื่อมองลงมาที่เมืองจำลองจะเห็นนครเซี่ยงไฮ้ทุกพื้นที่

นครเซี่ยงไฮ้สร้างผังเมืองจำลองขึ้นมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าทุกพื้นที่มีสิ่งปลูกสร้างอยู่ตรงไหน และพื้นที่ตรงไหนยังว่างที่ไม่ได้มีการก่อสร้าง แต่เท่าที่ดูทุกพื้นที่เต็มไปด้วยตึกสูง หาพื้นที่ว่างไม่มีเลย จากการฟังบรรยายทราบว่าการสร้างผังเมืองจำลองนี้ เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้เรียนรู้ผังเมืองนครเซี่ยงไฮ้ง่ายขึ้น และสามารถกำหนดวางแผนผังเมืองวันนี้ และต่อไปในอนาคตได้ เนื่องจากประชาชนสามารถรู้ได้พื้นที่ไหนจะทำอะไร เมื่อใด เป็นต้น

ทางฝ่ายเราได้หารือถึงความร่วมมือด้าน Smart City รวมถึงการพัฒนาเมืองในส่วนเมืองใหม่ และการอนุรักษ์ย่านเมืองเก่า ที่นครเซี่ยงไฮ้ทำประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ทางเชียงใหม่กำลังอยู่ในการศึกษา เพื่อเสนอองค์กรยูเนสโก้เพื่อให้เป็นมรดกโลกอยู่ ซึ่งทางฝ่ายเซี่ยงไฮ้ยินดีให้คำปรึกษา (ดูภาพผังเมืองเซี่ยงไฮ้ประกอบ เหมือนถ่ายของจริง)

หลังจากนั้นเวลา 10.150 น.เดินทางไปวัดหลงฮวา เป็นวัดพูทธศาสนา  นิกายมหายาน อยู่ทางทิศใต้นครเซี่ยงไฮ้ เป็นวัดเก่าแก่อายุ 1735 ปี ตามไกด์บอก ถูกทำลายบ้างในยุคปฎิวัติวัฒนธรรมแต่ส่วนมากสิ่งสำคัญยังอยู่เกือบครบ คณะไปเพื่อไปกราบไหว้เพื่อเป็นศิริมงคล ได้รับการต้อนรับจากรองเจ้าอาวาสเป็นกรณีพิเศษท่านพาไหว้พระและอธิบายแต่ละวิหารที่ตั้งแนวเป็นชั้นๆ หลายวิหารด้วยกัน แต่ละวิหารตั้งห่างกันประมาณ 50 เมตร แต่ละวิหารประดิษฐานพระพูทธรูปสำคัญต่างๆ

ทราบว่าเมื่อวันที่ 6-11 กรกฎาคม 2556 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนั้น และนางมาลินี ลออพันธุ์สกุล สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปเยือนนครเซี่ยงไฮ้ ได้เป็นตัวแทนจังหวัดเชียงใหม่ นำพระพุทธรูป สิงห์ 1 สองนคร มอบให้วัดหลงฮวา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง

การไปครั้งนี้เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ได้ฝากของที่ระลึกให้ผู้ว่าฯปวิณ นำไปมอบให้เจ้าอาวาสหลงฮวาด้วย วัดนี้เป็นที่ศรัทธาของชาวจีนจะเห็นผู้คนไปกราบไหว้ เพื่อขอพรพระพุทธรูปในวัดจำนวนมาก ทราบว่าไปวันละหลายร้อยคน วันสำคัญเป็นพันถึงหลายพันคน และยังได้พบคนไทย 4 สาวแม่บ้านที่ตามสามีไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ได้มาไหว้พระด้วย เมื่อรู้ว่ามาจากเมืองไทย ได้เข้าทักทายและขอถ่ายรูปกับท่านผู้ว่าฯปวิณด้วย ผมไม่หล่อพอสาวๆแม่บ้านจึงไม่ขอถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ..ฮา

ออกจากวัดฝนตกพรำๆเดินทางไปที่ทำการสำนักงานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครเซี่ยงไฮ้ ที่ทำการและบ้านพักเพิ่งสร้างเสร็จได้ประมาณ 1 ปี ใหญ่โอ่อ่าสมกับเป็นหน้าตาของประเทศ ท่านกงสุลใหญ่ชื่อคุณปริชาติ ลือไพบูลพันธุ์ เปิดบ้านพักเลี้ยงอาหารกลางวัน เป็นอาหารไทย เช่นแกงเขือหวานหมู ปีกไก่ทอด น้ำพริกลงเรือ ทอดมันปลากาย ต้มยำไก่ หมี่กะทิ สมตำมะละกอ และผัดไท ของหวานสาคูลำไย และผลไม้ เป็นที่ถูกใจทุกคน เนื่องจากไม่ได้ทานอาหารไทยมาหลายวันแล้ว

ครับอยู่เชียงใหม่มาแต่เกิด ผมเพิ่งได้ทานสาคูลำไยเป็นครั้งแรกในชีวิตอร่อยดี ส่วนมากทานแต่ข้าวเหนียวเปียกลำไย  เชฟที่ปรุงอาหารทราบว่าท่านกงสุลใหญ่ได้พามาจากเมืองไทย เนื่องจากท่านกงสุลใหญ่มีแขกมา แขกไป เป็นประจำ และแขกเพื่อนๆนักการทูตต่างประเทศด้วยกัน เพื่อเป็นเอกลักษณ์ไทย จึงต้องจัดอาหารไทยเลี้ยงต้อนรับและเลี้ยงส่ง ทั้งเลี้ยงเพื่อมิตรภาพเพื่อนนักการฑูตด้วย

พอมีเวลาพูดคุยกับท่านกงสุลใหญ่ ผมถามว่าสำนักกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ รับผิดชอบดูแลกี่มณฑล ก็ได้คำตอบว่า 1 นคร 3 มณฑล คือนครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจ้อเจียง มณฑลเซียงจู และมณฑลอานฮุย พลเมืองประมาณ 200 ล้านคน ปี 2599 มีชาวจีนไปขอวีซ่าเข้าประเทศไทยผ่านสำนักงานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครเซี่ยงไฮ้ 1 ล้าน 4 หมื่นคน จากยอดจำนวนที่เดินทางมาประเทศไทย 7.8 ล้านคน คาดว่าปี 60น่าจะเพิ่มขึ้นอีก

เวลา 13.00 น.เดินทางโดยรสบัสไปเมืองจูเจียเจียว ห่างออกไปจากนครเซี่ยงไฮ้ ประมาณ 100 กว่า กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางที่นั่งบนรถสังเกตุสองข้างทางเขาปลูกดอกไม้ เป็นต้นไม้ดอกสีขาว สลับกับดอกแดง ดูแล้วสวยงามตลอดทาง เป็นที่น่าสังเกตเซี่ยงไฮ้เป็นนครที่มีตึกสูงมากก็จริง แต่ทุกพื้นที่จะปลูกต้นไม้เพิ่มความสีเขียว และปลูกดอกไม้แซมตลอดทุกพื้นที่ว่าง ที่สำคัญเป็นเมืองสะอาดหูสะอาดตา ไม่เชื่อเลยว่าเป็นเมืองจีนที่มีคนอยู่ 20 กว่าล้านคน ขยะน่าจะกองให้เห็นบ้าง แต่นี่ไม่เห็นเลย ผมว่าสะอาดกว่าเมืองฝรั่งหลายเมืองที่ผมสัมผัสมา บ้านเราขอให้ได้ความสะอาดสักครึ่งหนึ่งก็จะเป็นบุญของคนเชียงใหม่ ผมพูดกับท่านผู้ว่าฯต้องไปกำชับองค์กรปกครองท้องถิ่นให้ดูแลอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นหน้าที่โดยตรง ดูอย่างฝนตกที่ผ่านมาท่อตันไม่มีการขูดลอกน้ำท่วมขังไม่มีที่ไป ผู้ว่าฯต้องออกโรงเอง เป็นหน้าที่ของนายกเทศมนตรี ทำไมต้องถึงมือผู้ว่าฯ ผมงี้..ไม่เข้าใจจริงๆ

มาวกเข้าเมืองจูเจียเจียว เป็นเมืองน้ำโบราณ อายุ 400 ปี บ้านเรือนราษฎร ตั้งอยู่สองฝั่งคลอง เป็นเมืองที่รักษาบ้านเก่าไว้ได้ทุกหลัง ทำให้มีเสน่ห์สำหรับการท่องเที่ยว ตัวอาคารบ้านเป็นร้านขายของที่ละลึก และของกินสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนคลองก็มีบริการนั่งเรือใช้คนพาย ชมสองฝั่งคลอง ที่มีทัศนียภาพสวยงาม ชมวิถีชีวิตของคนคลอง เมืองโบราณนี้ไม่เก็บเงินค่าเข้าชม รวมทั้งนั่งเรือด้วย ก็แปลกดีตามหลัดทุกเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวจะต้องเก็บเงินค่าเข้าชม

ส่วนมากบ้านละแวกนี้จะเป็นบ้านสองชั้นทรงจีนเก่า มีพื้นที่ประมาณหลังละ 50-60 ตารางวา ปลูกแนวสองฝั่งคลอง สมัยก่อนคงมีฐานะพอๆกันบ้านจึงเท่าๆกัน แต่มีบ้านหลังหนึ่งมีพื้นที่หลาย 10 ไร่ มีตัวบ้านหลายอาคาร มีเวทีการแสดง รวมทั้งสนามหญ้า สระน้ำ สวนปลูกต้นไม้ นาปลูกข้าว อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทราบว่าเจ้าของบ้านเป็นของตระกูลหม่า เป็นเศรษฐีใหญ่ ในอำเภอนี้ เมื่อครั้งปฏิวัติวัฒนธรรมประธานเหมา เจอตุง สั่งยึดทรัพย์สินคนรวยให้ตกเป็นของรัฐหมด คนตระกูลหม่าได้อพยพหลบหนีไปอยู่สิงคโปร์ ไม่กลับมาจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลท้องถิ่นได้เข้าไปดูแล พูดได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน ผู้ชอบชมเมืองเก่า ไปเซี่ยงไฮ้ น่าจะไปเที่ยวชมไม่ผิดหวัง และผมก็เชื่อว่าท่านผู้ว่าฯปวิณ ไปเห็นการอนุรักษ์เมืองเก่ามา ก็คงมีแนวคิดอะไรมาด้วย เพื่อนำมาประยุกต์ผลักดันการเป็นเมืองเก่าของเชียงใหม่ต่อไป

ผมคนหนึ่งพูดมานานกว่า 30 ปีแล้วเชียงใหม่ ต้องเป็นเมืองเก่า เมืองวัฒนธรรมประเพณี เมืองดอกไม้และธรรมชาติงาม โบราณสถานต้องไม่ถูกทำลาย ชื่นชมอดีตผู้ว่าชัยยา พูนศิริวงศ์ ที่เริ่มต้นในการอนุรักษ์เมืองเก่า วิหารวัดหรือโบสถ์เก่าแก่หลายวัด เจ้าอาวาสจะรื้อสร้างใหม่ โดยมีนายทุนค้าของเก่าอยู่เบื้องหลัง ผู้ว่าชัยยาไปขอร้องเจ้าอาวาสไว้ก็สำเร็จหลายวัด   ประตูท่าแพ ท่านสร้างจำลองขึ้นมาเท่าของจริงโบราณหากจะผิดพลาดเพียงแค่เศษของนิ้วเท่านั้น ส่วนข่วงท่าแพท่านสร้างให้เป็นศักดิ์ศรีของเมือง ท่านมีนโยบายห้ามเทศบาลนำไปจัดตลาดนัด หรือพื้นที่ขายของ ให้ใช้ในงานรัฐพิธีเท่านั้น แต่ในระยะหลังเละตุ้มเป๊ะ กลายเป็นตลาดนัดไป วันนี้ได้ผู้ว่าฯปวิณ ที่เห็นความสำคัญข่วงท่าแพท่านไม่ยอมให้ใครมาตั้งตลาดนัด ผมปรบมือให้ครับ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ท่านรำลึกถึงอดีตบรรพกษัตริย์ล้านนาก็สร้างขึ้นมาอย่างสง่างามสมพระเกียรติพระองค์ท่าน แต่เทศบาลนครเชียงใหม่ ก็ยังปล่อยให้เข้าไปจัดงานบ้าๆบออีก ไม่รู้จักคุณค่าทางประวัติศาสตร์เลย

ต่อมาผู้ว่าฯไพรัช เดระรินทร์ ก็มาสานต่อ ท่านเอาจริงเอาจังกับเรื่องเมืองเก่า ถึงกับพาคณะผู้บริหารจังหวัด ไปดูเมืองเก่าที่เมืองซานตาเฟเมืองหลวง รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2533 ทุนรัฐบาลสหรัฐฯ เมืองนี้ขึ้นชื่อในการอนุรักษ์มาก ผมได้เดินทางไปด้วยเห็นการอนุรักษ์บ้านเก่าของชาวอินเดียนแดงไว้สมบูรณ์เกือบทุกหลัง ท่าผู้ว่าไพรัฐพูดกับผมว่า อำนาจ เห็นของเขาทำได้ ของเราต้องทำได้ แต่ต้องช่วยกันออกแรงหน่อย กลับไปจะตั้งคณะทำงานทันที เสียดายท่านไม่ทันได้ลงมือขยับ ท่านบุญน้อยเกินไปประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกับภรรยาท่านและชาวเชียงใหม่อีกหลายคน ท่านตั้งใจไปดูเมืองเก่าประเทศออสเตรีย ซึ่งขึ้นชื่อว่าตึกรามบ้านช่องออกแบบสถาปัตย์กรรมสวยงาม ท่านไม่ทันได้เห็นก็จากไปเสียก่อน

ตั้งแต่นั้นมาไม่ค่อยมีผู้ว่าคนใดขยับเรื่องการอนุรักษ์เมืองเก่า ลำพังภาคประชาชนที่ผลักดันก็ไม่มีแรงและบารมีพอ วันนี้ผมเห็นความตั้งใจผู้ว่าฯปวิณที่จะอนุรักษ์เมืองเก่าด้วยการผลักดันสู่เมืองมรดกโลก และการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมเรื่องการแต่งกายพื้นเมือง เห็นแล้วก็พอมีความหวัง เมื่อหัวขยับหางจะอยู่เฉยได้อย่างไร ไปนอกเรื่องเสียไกล

ด้วยเวลามีน้อย ต้องรีบกลับไปเซี่ยงไฮ้ เพื่อขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปเมืองหางโจว ในเวลา 17.55 น.ไกด์จีน ชื่อไทย ชาตรี เรียนหนังสือไทยที่มหาวิทยาลัยก่วงสี มาหากินเป็นไกด์ไทยที่เซี่ยงไฮ้นานกว่า 10 ปี แต่ไปเช่าบ้านอยู่ที่เมืองหางโจว ที่คณะกำลังจะไปเยือน อยู่ห่างจากเซี่ยงไฮ้ 200 กม.นั่งรถไฟเพียง 1 ชม.เท่านั้น พยามเร่งคณะให้ขึ้นรถบัสเร็วๆเกรงว่าขากลับหากรถติดจะตกรถไฟได้ ผมเลยย้อนถามว่าหากตกรถไฟ คงไปไม่ได้แล้วใช่ไหม ชาตรี ตอบว่าไปได้ รถมีออกทุกๆครึ่งชั่วโมง แต่ต้องทิ้งตั๋วเก่าที่ซื้อชั้นวีไอพีไว้ ต้องซื้อใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าชั้นวีไอพีจะมีหรือไม่ เนื่องจากเที่ยวค่ำคนเดินทางมาก และตั๋วก็แพงด้วยจะไปเสียเปล่าทำไม ผมพูดเพียงเออ.. เออ อย่างนั้นหรือ

วันนี้เลยไปไม่ถึงหางโจว เมืองที่ ไกด์ชาตรี คุยโวเป็นเมืองที่สวยงาม เป็นเมืองที่น่าอยู่ เป็นเมืองอากาศดี และเป็นเมืองคนรวยทุกคน และคนที่รวยที่สุดของเมืองจีนก็อยู่ที่นี่.

อ่านต่อ ตอน 6

แท็ก คำค้นหา