ชุมชนบ้านต่อเรือ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่มจังหวัดเชียงใหม่ลงนามบันทึกประชารัฐกับกรมป่าไม้ ในการพลิกฟื้นผืนป่าแม่แจ่ม

ชุมชนบ้านต่อเรือ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่มจังหวัดเชียงใหม่ลงนามบันทึกประชารัฐกับกรมป่าไม้ ในการพลิกฟื้นผืนป่าแม่แจ่มให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ในอนาคต
ที่อาคารนิทรรศการ 1 อุทยานหลวงราชพฤกษ์อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายชลธิศสุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้และนายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกประชารัฐแห่งบ้านต่อเรือ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่มจังหวัดเชียงใหม ่กับ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ผู้แทนกรมป่าไม้ ทั้งนี้อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพพื้นที่เป็นป่าเสื่อมสภาพ เพราะมีการบุกรุกเพื่อปลูกข้าวโพด ทำให้เกิดการเผาตอซังข้าวโพด อันเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นตลอดมา ดังนั้น กรมป่าไม้ โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ร่วมกับอำเภอแม่แจ่มในการสร้างความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือในการลดการเผาป่าและการปลูกบุกรุกป่าเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว พร้อมร่วมจัดทำแผนจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ระดับพื้นที่โดยร่วมกับราษฎรบ้านต่อเรือ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ในการสำรวจเขตหมู่บ้าน เขตป่า พร้อมจัดทำแผนป้องกันรักษาป่าที่เหลืออยู่ร่วมกัน ทั้งนี้จากการสำรวจพื้นที่ป่าและป่าเสื่อมสภาพ พบว่า บ้านต่อเรือมีพื้นที่ป่าคงเหลืออยู่ 4,101 ไร่ และสภาพป่าเสื่อมโทรม 770 ไร่ ดังนั้น ในวันนี้ กรมป่าไม้โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) พร้อมกับราษฎรบ้านต่อเรือ จึงได้เห็นพ้องต้องกันให้มีการจัดทำบันทึกประชารัฐแห่งบ้านต่อเรือ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ว่าด้วยความตกลงร่วมมือในการดำเนินการตาม “แผนการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ระดับพื้นที่” ในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ปี พ.ศ.2559 โดยมีแนวทางการจัดการที่เป็นสาระสำคัญ คือ ด้านควบคุมพื้นที่ กรมป่าไม้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบรังวัดตามโครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ไว้แล้ว โดยมีพื้นที่ที่มีการทำการเกษตรของชาวบ้านจำนวน 241 ราย 401 แปลง 1,680 ไร่ ซึ่งกรมป่าไม้จะดำเนินการตามกฎหมาย นโยบายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ราษฎรได้อาศัยทำกินต่อไป ด้านการป้องกันพื้นที่ ในพื้นที่ป่าที่สำรวจไว้จำนวน 4,10 1 ไร่ จะทำการคุ้มครองป้องกันไว้ พร้อมทั้งจัดทำขอบเขตแสดงอย่างชัดเจนเพื่อเป็นสถานที่จัดทำกิจกรรมป่าชุมชนของบ้านต่อเรือและป้องกันการบุกรุกในอนาคต ด้านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะทำการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมที่สำรวจไว้เนื้อที่ 700 ไร่ ให้กลับมาเป็นสภาพป่าสมบูรณ์ต่อไป และด้านสุดท้ายการติดตามประมวลผลและระบบข้อมูล ให้มีการจัดทำข้อมูลในพื้นที่ในรูปแบบของแผนที่แสดงขอบเขตงานด้านการควบคุมพื้นที่ด้านการป้องกันพื้นที่และด้านการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่กล่าวข้างต้นเพื่อจัดทำเป็นระบบฐานข้อมูลด้านทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ในพื้นที่ให้เป็นปัจจุบันเพื่อติดตามความก้าวหน้าประเมินผลปรับปรุงการดำเนินงาน ตลอดจนสร้างความเชื่อมโยงสนับสนุนงานด้านอื่นต่อไป โดยการลงนามบันทึกประชารัฐแห่งบ้านต่อเรือครั้งนี้ มีผู้แทนในส่วนของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) จำนวน 5 ท่าน คือ นายชูเกียรติ วงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1(เชียงใหม่), นายอัจฉริยะ ลายประวัติ ผู้อำนวยการส่วนจัดการที่ดินป่าไม้, นายสุพจน์ ทัศนานนท์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า, นายสุทธิศักดิ์ ก้อนแก้ว ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า, นายพรเทพ ลิ้วประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนจัดการป่าชุมชน และในส่วนของผู้แทนบ้านต่อเรือและคณะกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ประจำหมู่บ้านจำนวน 5 ท่าน คือ นายก๋องคํา จริยา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านต่อเรือ, นายสุพรรณ ใจคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านต้นตาลนางแล, นายคำนึง ไชยชนะบุตร คณะกรรมการฯ, นางสุพิน สุภาวรรณรัตน์ คณะกรรมการฯ และนายวิเชษฐ์ มุ่งดี คณะกรรมการฯนายอำเภอแม่แจ่ม กล่าวว่า จากการที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างจริงจัง โดยมีอำเภอแม่แจ่ม อำเภอเชียงดาวและอำเภอสะเมิงเป็นอำเภอนำร่องในการดำเนินการร่งมกับภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ ทำให้อำเภอแม่แจ่มสามารถลดจำนวน Hot Spot ในช่วงรณรงค์ “60 วัน ห้ามเผา เราทำได้” ได้มากกว่าร้อยละ 90 แสดงให้เห็นว่าชาวอำเภอแม่แจ่มให้ความร่วมมือในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และคาดว่าการลงนามบันทึกประชารัฐแห่งบ้านต่อเรือครั้งนี้ จะทำให้อำเภอแม่แจ่ม กลับมามีป่าที่สมบูรณ์ สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันได้อย่างยั่งยืนต่อไป