นาซายืนยันการค้นพบน้ำที่เป็นของเหลวบนพื้นผิวดาวอังคาร
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐ (NASA) แถลงยืนยันพบน้ำที่เป็นของเหลวบนดาวอังคาร หลังส่งยานมาร์สเรคองเนซองส์ออร์บิเตอร์ (Mars Reconnaissance Orbiter : MRO) ไปโคจรรอบดาวอังคาร นับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์โลก
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ กล่าวว่า ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์หินแข็ง ได้รับความสนใจจากนักดาราศาสตร์ในการศึกษามาโดยตลอด เนื่องจากหากเทียบกับดาวเคราะห์หินแข็งอื่น เช่น ดาวพุธ และดาวศุกร์แล้ว มีสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับโลกมากกว่า จากการศึกษาที่ผ่านมาโดยยานอวกาศหลายลำ มีการพบร่องรอยของน้ำบนพื้นผิวของดาวอังคารในอดีต ซึ่งคาดว่าเคยมีมหาสมุทร ลึกถึง 50 เมตร ปกคลุมอยู่เมื่อหลายพันล้านปีที่แล้ว ในเวลาต่อมามหาสมุทรนี้หายไป และปัจจุบันยานอวกาศหลายลำ ได้พบน้ำในสถานะของแข็งอยู่ใต้ผิวดาวอังคาร รวมถึงปะปนอยู่กับคาร์บอนไดออกไซด์แข็ง ที่ขั้วเหนือใต้ของดาวอังคาร
ยาน Mars Reconnaissance Orbiter (MRO) ได้ค้นพบหลักฐานร่องรอยทางน้ำไหลบริเวณปากหลุมที่เกิดจากการชนหลายแห่งบริเวณเส้นศูนย์สูตรของดาวอังคาร และได้ติดตามศึกษาร่องรอยที่เป็นทางยาวคล้ายน้ำไหล ดังกล่าวมาโดยตลอด ใช้เวลาในการศึกษาประมาณ 4 ปี หรือประมาณ 2 ฤดูกาลของดาวอังคาร (ดาวอังคารใช้ประมาณ 2 ปี ในการโคจรรอบดวงอาทิตย์) จนสามารถยืนยันได้ว่ามีการไหลของน้ำที่เป็นของเหลว แต่เนื่องจากดาวอังคารมีอุณหภูมิที่เย็นจัด และมีชั้นบรรยากาศที่เบาบางไม่ถึง 1%ของโลก จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าน้ำคงสถานะเป็นของเหลวได้อย่างไร จนกระทั่งพบว่ามีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ สารประกอบที่เป็นเกลือ ได้แก่ แมกนีเซียมเปอร์คลอเรต ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้น้ำไม่กลายเป็นน้ำแข็งในอุณหภูมิที่ติดลบ ต่ำกว่าประมาณ -20 องศาเซลเซียส จึงเป็นที่มาของการแถลงข่าวในครั้งนี้ของนาซา กลายเป็นข่าวใหญ่และน่าตื่นเต้นในวงการวิทยาศาสตร์ หากในอดีตเราคาดว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ เช่น จุลินทรีย์ ต่อไปการค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารก็ต้องมีการปรับแผนในการศึกษา มุ่งประเด็นการค้นหาไปในบริเวณที่ของเหลวดังกล่าวต่อไป ดร.ศรัณย์กล่าว
นายมติพล ตั้งมติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ ได้สรุปสาระสำคัญของการแถลงข่าวนาซา นี้ว่า
น้ำ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในเอกภพ โดยเฉพาะสำหรับทุกชีวิตบนโลก น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญที่จำเป็นสำหรับทุกชีวิตจนเราไม่สามารถจินตนาการได้ถึงชีวิตที่ปราศจากน้ำ ด้วยเหตุนี้การหาน้ำที่เป็นของเหลวนอกโลก จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะการที่ค้นพบน้ำ ย่อมหมายถึงความเป็นไปได้ที่เราจะไปอาศัยอยู่ หรือแม้กระทั่งความเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตอื่นนอกโลก
ความเป็นไปได้ของน้ำบนดาวอังคาร เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์สนใจอยู่เสมอตั้งแต่นักดาราศาสตร์จิโอวานี เชียพาเรลลี (Giovanni Schiaparelli) หรือแม้กระทั่งเพอร์ซิวาล โลเวลล์ (Percival Lowell) ที่สังเกตเห็นโครงสร้างเหมือนกับ “คลอง” ที่อาจจะเกิดจากอารยธรรมบนดาวอังคาร อย่างไรก็ตาม โครงสร้างคลองดังกล่าวเป็นเพียงภาพลวงตา และภาพรายละเอียดสูงไม่ได้พบโครงสร้างเหล่านี้แต่อย่างใด แม้กระนั้นก็ตามภาพถ่ายดาวเทียมของพื้นผิวดาวอังคารยังเผยให้เห็นถึงร่องเขาที่ดูคล้ายจะถูกกัดเซาะด้วยของเหลว ลำธาร สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ที่ดูเหมือนจะไหลลงสู่มหาสมุทรที่แห้งผาก เหมือนจะบ่งชี้ว่าในอดีตดาวอังคารอาจจะเคยมีน้ำมาก่อน ยานสำรวจพื้นผิวดาวอังคารเป็นจำนวนมากที่ถูกส่งไปสำรวจดาวอังคาร มีภารกิจที่สำคัญที่สุดในการค้นหาร่อยรอย และหลักฐานถึงการมีน้ำในรูปของเหลวบนพื้นผิว เราทราบว่าพื้นผิวปัจจุบันของดาวอังคารไม่สามารถคงสภาพของน้ำที่เป็นของเหลวอยู่บนพื้นผิวได้ แต่แร่ธาตุต่างๆ ที่ยานสำรวจ Spirit Opportunity Curiosity ฯลฯ ที่ค้นพบ บ่งชี้ให้เห็นว่าพื้นผิวดาวอังคารเคยมีน้ำซึ่งเป็นของเหลวไหลอยู่ แต่เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้ำเหล่านั้น และน้ำหายไปไหน จนกระทั่งล่าสุด นาซาได้ออกมาเปิดเผยการค้นพบหลักฐานที่สำคัญที่สุดว่า ปัจจุบันนี้ดาวอังคารมีน้ำที่เป็นของเหลวไหลอยู่บนพื้นผิวของดาวอังคาร ณ เวลาปัจจุบัน
ภาพจาก Mars Reconnaissance Orbiter (MRO) เปิดเผยให้เห็นถึงแร่ธาตุที่เกิดการไหลบนเนินเขารอบหลุมอุกกาบาตเฮล (Hale Crater) ซึ่งร่องรอยสีดำเหล่านี้เป็นพวกแร่ธาตุและผลึกเกลือที่ละลายอยู่กับน้ำ และเกิดขึ้นจากการไหลอย่างต่อเนื่องของน้ำลงไปตามเนินเขาเหล่านี้ แร่ธาตุที่ละลายอยู่ในน้ำเหล่านี้จะทำให้จุดเยือกแข็งของน้ำลดลง ซึ่งอาจจะมากพอที่จะทำให้สามารถคงสภาพของของเหลวเอาไว้บนพื้นผิวดาวอังคารได้ นอกจากนี้ องค์การนาซาคาดว่าน้ำที่ไหลอยู่อาจจะไหลอยู่ในภายใต้พื้นผิวตื้นๆ แต่ซึมออกมามากพอที่เผยให้เห็นในรูปของแร่ที่เปียกน้ำบนพื้นผิวเบื้องบน จากข้อมูลทางสเปกตรัมนาซาเชื่อว่าแร่ธาตุเหล่านี้น่าจะอยู่ในรูปของแมกนีเซียมเปอร์คลอเรต ซึ่งในบางกรณีสามารถทำให้น้ำคงสภาพของเหลวเอาไว้ได้ถึงที่อุณหภูมิ -70 C และบนโลกสามารถพบได้มากในบริเวณทะเลทราย และสามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงขับดันของจรวดได้ ปกติแล้วเมื่อคนพูดถึงน้ำบนดาวอังคาร เรามักจะพูดถึงน้ำจำนวนมากในอดีตของดาวอังคาร หรือน้ำแข็งที่ถูกขังอยู่ลึกใต้พื้นผิวปัจจุบัน แต่ปัจจุบันนี้เรารู้แล้วว่าดาวอังคารมีน้ำที่เป็นของเหลวไหลอยู่บนพื้นผิวได้ แต่อย่างไรก็ดีผลการศึกษาเรื่องน้ำบนดาวอังคารนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ นักดาราศาสตร์มีการศึกษาเรื่องนี้มาต่อเนื่องยาวนานหลายปีแล้ว