คณะสื่อมวลชนเชียงใหม่ และสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ จบภารกิจเชื่อมความสัมพันธไมตรี กับสื่อมวลชนฮานอย และสมาคมสตรีนครหลวงฮานอย ได้รับการต้อนรับจาก 8 องค์กรสมาชิกของสมาคมนักข่าวนครหลวงฮานอย อย่างอบอุ่น มิตรภาพแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังเปิดเชื่อมสัมพันธ์มาเข้าสู่ปีที่ 9

[นายห่ง อุปนายกสมาคมนักข่าวนครหลวงฮานอย ต้อนรับสื่อมวลชนเชียงใหม่ และนายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่]

–ระหว่างวันที่ 20-26 ธันวาคม 66 นายอำนาจ จงยศยิ่ง นายกสมาคมนักวิทยุโทรทัศน์ และผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ และนางสาววรัญญา เลิศวรกิจพัฒน์ นายกสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ สมาชิกในองค์กรสภาสตรีแห่งชาติ จำนวน 12 คน เดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์กับสมาคมนักข่าวนครหลวงฮานอย และสมาคมสตรีนครหลวงฮานอย ตามคำเชิญของนาย โท ฝ่าน นายกสมาคมนักข่าวนครหลวงฮานอย
วันแรกในวันที่ 20 ธันวาคม 66 ทางสมาคมนักข่าวฮานอย มอบหมายให้นาย ห่ง อุปนายกผู้ประจำการพร้อมเจ้าหน้าที่มาต้อนรับด้วยช่อดอกไม้สวยงาม แล้วพาเข้าที่พักโรงแรม Grand Hanoi Centre Hotel ใจกลางนครหลวงฮานอย ใกล้ทะเลสาบคืนดาบ และได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับด้วยอาหารพิเศษท้องถิ่นของนครหลวงฮานอย ที่ภัตตาคารชื่อดัง และจัดอวยพรวันคล้ายวันเกิดนายกฯ วรัญญา ที่มีวันเกิดในวันที่ 20 ธันวาคม พอดี
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สมาคมนักข่าวฮานอย พาไปเที่ยวชมการตกแต่งไฟคริสต์มาส ต้อนรับวันคริสต์มาส ที่โบสถ์อายุกว่าสองร้อยปี สร้างในสมัยฝรั่งเศสปกครอง ซึ่งมีคนหนุ่มคนสาวชาวฮานอยไปร่วมชมนับพันคน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น 6 องศา

[นายห่ง และนายมินห์ ดึ๊ก สองอุปนายกสมาคมนักข่าวฮานอย จัดเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับ และจัดเค็กอวยพรวันเกิดให้กับ นางสาววรัญญา เลิศวรกิจพัฒน์ ที่เกิดตรงกับวันที่ 20 ธันวาคม วันเดินทางไปถึง นครหลวงฮานอยพอดี]

-วันที่ 21 ธันวาคม เป็นวันที่สองของการเยือนนครหลวงฮานอย ช่วงเช้าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ตำรวจนครหลวงฮานอย ส่งระดับหัวหน้าข่าวหลายคนพาคณะสื่อมวลชนดูงานด้านประวัติศาสตร์สุสานประธานาธิบดีโฮจิมินห์ และสถานที่สำคัญใกล้เคียง เป็นเวลานานประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วพาไปเยี่ยมสำนักงานหนังสือพิมพ์ตำรวจ ซึ่งทุกคนแต่งเครื่องแบบตำรวจเต็มยศให้การต้อนรับ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นซึ่งกันและกัน รายละเอียดการสนทนาทุกองค์กร นายอำนาจ จะพูดกรณีพิเศษใน อำนาจ… พูด อีกครั้ง หลังจากนั้น ติดตามได้ในเพจภาคเหนือรายวัน บรรณาธิการใหญ่หนังสือพิมพ์ตำรวจ จัดเลี้ยงอาหารกลางวัน บรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรภาพ

ช่วงบ่ายบรรณาธิการใหญ่หนังสือพิมพ์แรงงานนครหลวงฮานอย ส่งหัวหน้าข่าวหลายฝ่ายมารับช่วงต่อ พาทัศนศึกษาทะเลสาบด้านทิศตะวันตก ซึ่งมีวัด 2 แห่ง เพื่อสักการะบูชา ต่อด้วยเยี่ยมหนังสือพิมพ์แรงงาน จนถึงเย็นหนังสือพิมพ์แรงงานเลี้ยงอาหารค่ำ

–วันที่ 22 ธันวาคม วันที่สามในนครหลวงฮานอย ช่วงเช้า ผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุโทรทัศน์ฮานอย ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวระดับหัวหน้า พาคณะไปเยี่ยมชมหมู่บ้านแวนไหมฟุก เป็นหมู่บ้านผลิตผ้าไหม มรดกดมาจากบรรพบุรุษนับพันปี ทั้งหมู่บ้านผลิตผ้าไหมกันหมด ต่อด้วยเยี่ยมชมสถานีโทรทัศน์นครหลวงฮานอย ที่มีเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมกันถึง 600 คน จากนั้นผู้อำนวยการใหญ่ และรองผู้อำนวยการเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่ภัตตาคารหรู ใกล้สำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์ฮานอย

( เยี่ยมสถานีวิทยุโทรทัศน์นครหลวงฮานอย ทางสถานีมอบให้เจ้าหน้าที่พาชมการผลิตผ้าไหม และเลี้ยงอาหารกลางวัน )

–ช่วงบ่ายเข้าพบบรรณาหนังสือพิมพ์สตรีนครหลวงฮานอย และสมาคมสตรีนครหลวงฮานอย ที่สำนักงาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดด้านสื่อมวลชนกับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สตรี และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างสตรีนครหลวงฮานอย กับสตรีนครเชียงใหม่ ซึ่งได้ประโยชน์มาก ทั้งสองฝ่ายจะมีการลงนามความร่วมมือกันต่อไป ตามด้วยนายกสมาคมสตรี และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สตรีนครหลวงฮานอยพาไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์สตรีนครหลวงฮานอย ซึ่งเป็นสตรีที่มีบทบาทสูงช่วยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร ในสงครามกับอเมริกัน สตรีคนหนึ่งสร้างวีรกรรมยิงเฮลิค็อบเตอร์ทหารอเมริกันตก อาหารค่ำมื้อนี้สมาคมสตรีนครหลวงฮานอย กับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สตรีฮานอยเป็นเจ้าภาพ เป็นภัตตาคารหรูอีกแห่งหนึ่งในนครหลวงฮานอย

(ชมพืพิธภัณฑ์สตรีฮานอย บันทึกสตรีคนเก่งที่ร่วมกู้ชาติในสงครามกับสหรัฐอเมริกา มีสตรีท่านหนึ่งสอยฮ.อเมริกันตก )

–วันที่ 23 ธันวาคม เป็นวันที่สี่ ในนครหลวงฮานอย ช่วงเช้าบรรณาธิการใหญ่หนังสือพิมพ์ฮานอยใหม่ คุณมินห์ ดึ๊ก ได้ส่งนายไล บาฮา รองบรรณาธิการ และหัวหน้าฝ่ายข่าว พาไปทัศนศึกษาหมู่บ้านบ๊าทตรัง เกียลัม ทำเซรามิก ทั้งหมู่บ้าน ยึดอาชีพทำกันหมด ผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงาน หรือร้านค้า ก็จะเป็นแรงงานในหมู่บ้าน ทำให้เศรษฐกิจดีมาก และพาไปชมเทศกาลดอกไม้ของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตดอกไม้ใหญ่ที่สุด ส่งขายไปทั่วประเทศ ประธานหมู่บ้านเป็นผู้บริหารท้องถิ่นด้วย ได้พาไปชมพิพิธภัณฑ์​ของหมู่บ้าน อาคารเป็นสถาปัตยกรรมโอ่ง และยังใจดีเลี้ยงอาหารกลางวันของชนเผา พร้อมกับไปดื่มชาดอกบัวที่ร้านของประธาน ซึ่งชงชาให้ดื่ม โดย นั่งขัด สะ หมาด หรือขัดตะหมาด ดื่มได้อัธรส​อีกแบบหนึ่ง พร้อมกับมอบของที่ระลึกให้ทุกคน บอกว่าเป็นของขวัญจากนายอำเภอฝากมาให้คณะ

อาคารพิพิธภัณฑ์ประวัติการทำเซรามิคและการแสดงด้านววัตกรรมใหม่ สวยงามมาก

ช่วงบ่ายหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจฮานอย มีชื่อภาษาเวียตนาม กินเต๋โดถิ มอบหมายให้รองบรรณาธิการ และหัวหน้าฝ่ายข่าว มารับช่วงต่อ พาคณะไปเยี่ยมชมพระราชวังเก่า ซึ่งเคยเป็นกองบัญชาการรบใต้ดิน ของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ และกองบัญชาการของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ในสงครามสู้กับอเมริกา นำมาซึ่งชัยชนะของกองทัพประชาชนเวียตนาม แล้วต่อด้วยเยี่ยมกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เพื่อแลกเปลี่ยนการทำงานสื่อในยุคที่กระแสดิจิตอลมาแรง อาหารค่ำวันนี้หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจฮานอย เป็นเจ้าภาพ หลังอาหารค่ำพาไปชมมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียตนาม สร้างเมื่อ พันกว่าปีก่อน ซึ่งเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวยามค่ำคืน

รองบรรณาธิการใหญ่หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจและการเมือง แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นการบริหารหนังสือพิมพ์ช่วงดิจิตอลมาแรง

วันที่ 24 ธันวาคม เป็นวันที่ 5 ของการเยือนฮานอย ตื่นแต่เช้า เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดลาวกาย จุดเป้าหมายคือเมืองสปา คุณห่ง อุปนายกสมาคมนักข่าวฮานอย เป็นหัวหน้าคณะ นายเลิม ผู้จัดการสมาคมนักข่าวฮานอย ตามด้วยผู้บริหารและนักข่าวประจำกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เยาวชนฮานอย เป็นเจ้าภาพพาไป ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงถึงเมืองสปา แวะจุดพักรถ 3 ครั้ง เวลา 13.00 น. ผู้บริหารและนักข่าวหนังสือพิมพ์เยาวชน พาไปเลี้ยงอาหารเที่ยงมือนี้เป็นอาหารท้องถิ่นของเมืองสปา หลังจากนั้นนั่งรถรางไฟฟ้า จากตัวเมืองสปา ไปยังสถานีกระเช้าไฟฟ้า ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพื่อนั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นไปยังยอดเขาฟานซีปัน ยอดเขาสูงที่สุดในอินโดจีน จากต้นสถานีใช้เวลา 30 นาที ก็ถึงยอดเขาฟานซีปัน ในขณะที่กระเช้า1ตู้บรรจุคนได้ 20-30 คน ระหว่างกระเช้าแล่นมองด้านล่างไม่เห็น ปกคลุมไปด้วยหมอก เนื่องจากอากาศหนาวจัด แต่เมื่อถึงปลายทางคณะสื่อมวลชนได้พบกับความสวยงามของฟานซีปัน เนื่องฟ้าเปิด ต่างอุทานเหมือนกับเทพนิยาย ค่ำหนังสือพิมพ์เยาวชนฮานอยเลี้ยงอาหารที่ร้านอาหารสไตล์​พื้นบ้าน แล้วพาชมเมืองยามค่ำคืน และโบสถ์สมัยฝรั่งเศสที่ผู้คนต่างไปชุมนุมกันที่นี่ เมืองสปาร้านค้าแทบจะทุกร้านต่างประดับไฟ แล้วเช็คอินที่ Sapa Vista Hotelๆ

กระเช้าไฟฟ้านั่งได้ 25 คน ขึ้นไปบนยอดเขาฟานซีปัน

วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่หก วันครสต์มาสของการเยือนเวียตนาม เจ้าหน้าที่กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์เยาวชนฮานอย พาไปชมสวนหิน ต้าฟีน เป็นชุมชนชาวม้ง ที่นี่นั่งผิงเตาไฟ ดื่มน้ำชา เนื่องจากอากาศหนาว หลายคนเริ่มเป็นไข้หวัด ต่อจากนั้นพาไปเที่ยวชมชายแดนเวียดนาม – จีน ด้านจังหวัดลาวกาย ติดกับมณฑลยูนาน ประเทศสาธารณะประชาชนจีน คณะสื่อมวลชน และสมาคมสตรีนครพิงค์ ได้กินเต้าฮวยที่แม่ค้านำไปตั้งขาย พุทราจีนแห้ง ถุงละร้อยบาท และเกาลัดคั่ว ก็มีขายราคาถูกมาก หนังสือพิมพ์เยาวฮานอย เลี้ยงอาหารกลางวัน เป็นการส่งลาหมดหน้าที่ในการนำเที่ยวเมืองสปา ที่จังหวัดลาวกาย เดินทางกลับนครหลวงฮานอย

กลับมาที่นครหลวงฮานอย อาหารค่ำนี้หนังสือพิมพ์กองทัพทหาร หนังสือพิมพ์เยาวชน นิตยสารฮานอย เป็นเจ้าภาพ โดยมีนายโท ฝ่าน นายกสมาคมนักข่าวฮานอย ร่วมงานด้วย เป็นงานเลี้ยงส่งคณะสื่อมวลชนเชียงใหม่ และสมาคมสตรีนครเชียงใหม่ ก่อนเดินทางกลับเชียงใหม่ เป็นงานเลี้ยงส่งที่สนุกมาก
วันที่ 26 ธันวาคม เป็นวันที่ 7 ของการเดินทางเยือนฮานอย เช้านี้นายมินห์ ดึ๊ก บรรณาการใหญ่หนังสือพิมพ์ฮานอยใหม่ และเป็นอุปนายกสมาคมนักข่าวฮานอย ได้มาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องต่างๆกับนายอำนาจ พร้อมขอโอกาสส่งคณะกลับเชียงใหม่ด้วยความสวัสดิภาพ เวลา 10 โมงเช้าเดินทางไปห้างลอตเต้ ห้างสรรพสินค้าของเกาหลีใต้ เป็นห้างขนาดใหญ่ ทันสมัยเพิ่งเปิดมาเมื่อ 3 เดือนก่อน แล้วไปทานเฝอ ร้านใจกลางนครหลวงฮานอย แขกแน่นร้านมาก เนื่องจากเป็นร้านเจ้าอร่อย ที่ทานแล้วติดใจ ในคณะทุกคนต่างยกมือให้
หลังจากนายห่ง อุปนายกสมาคมนักข่าวฮานอย พร้อมคณะไปส่งที่สนามบินนานาชาติ
โหน่ยบ๋าย เป็นการสิ้นสุดการเดินทางการเชื่อมสัมพันธไมตรี ระหว่างสื่อเชียงใหม่กับสื่อฮานอย และสตรีเชียงใหม่กับสื่อนครหลวงฮานอย

นายอำนาจ กล่าวว่าเป็นงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะได้เชิญสื่อมวลชนฮานอย มาเยือนเชียงใหม่ เป็นการตอบแทนในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 67 คอยติดตามใน อำนาจ… พูด เล่าเรื่องลงลึกแต่ละวันขณะเยือนนครหลวงฮานอย.

(ภาพบน) นายมินห์ ดึ๊ก บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฮานอยใหม่ พบแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น กับนายอำนาจ จงยศยิ่ง และส่งคณะ ที่โรงแรม (ภาพล่างสุด)นายห่ง อุปนายกผู้ประจำ สมาคมนักข่าวฮานอย ส่งคณะกลับเชียงใหม่ ที่ท่าอากาศยานโด่ยบ๋าย

แท็ก คำค้นหา