ประธานวุฒิสภาให้การรับรองรองเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองนางสาวหว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอริน (H.E. Ms. Wong Siow Ping Catherine) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ โดยมี พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น และนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศึกษา ร่วมให้การรับรอง

ประธานวุฒิสภากล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสิงคโปร์ที่มีความเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันมายาวนานกว่า 59 ปี อีกทั้งสองประเทศยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งอาเซียน (ASEAN) และทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันในเวทีระหว่างประเทศ ทำให้ความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสองเติบโตและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าในปี 2568 ทั้งสองประเทศจะร่วมกันฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตในโอกาสครบรอบ 60 ปี อย่างยิ่งใหญ่

สำหรับความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศได้มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาระหว่างกันขึ้น เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน ส่วนในระดับพหุภาคี ได้ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันในเวทีการประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศ ทั้งในกรอบการประชุม IPU, APPF และ AIPA เพื่อผลักดันวาระสำคัญระหว่างประเทศ ทั้งในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางอาหาร และสนับสนุนบทบาทสตรีในทุกมิติ ทั้งนี้ วุฒิสภาชุดปัจจุบันกำลังจะครบวาระในวันที่ 10 พฤษภาคม นี้ และเชื่อมั่นว่าสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่จะมีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และผลประโยชน์ที่มีร่วมกันจากภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม ที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรนิติบัญญัติของไทย และจะสานต่อในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสิงคโปร์ต่อไป

ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย กล่าวขอบคุณประธานวุฒิสภาสำหรับการต้อนรับอย่างดียิ่ง และกล่าวว่าในโอกาสปี 2568 นอกจากไทยและสิงคโปร์จะร่วมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตในโอกาสครบรอบ 60 ปี ยังตรงกับวันเฉลิมฉลองการได้รับเอกราชของสิงคโปร์ครบ 60 ปี จึงขอกราบเรียนเชิญประธานวุฒิสภาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นการเน้นย้ำและแสดงถึงที่แน่นแฟ้น ของประเทศทั้งสอง นอกจากนี้ มีความเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์และด้วยความใกล้ชิดกับประเทศไทยที่จะทำให้มีความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งในด้านอื่น ๆ ด้วย อาทิ ด้านนิติบัญญัติ ความร่วมมือการทหาร และการศึกษา ตลอดจนมีความเชื่อมั่นว่าสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่จะให้ความสำคัญและความร่วมมือระหว่างกันต่อไปในอนาคต

แท็ก คำค้นหา